เรื่องราวความรักของ ลู่เหยียน แม่ทัพเหยียน เป็นถึงองค์ชายสามที่อยู่มานับพันปีเพราะธิดาเผ่าภูต อวิ๋นชี ได้ควักเอาต้นพลังช่วยชีวิตเขาจากสงครามทำให้เขาอยู่มาได้นับพันปีเพื่อรอคอยการจุติเกิดใหม่ของธิดาเผ่าภูตอวิ๋นชี จนเวลาผ่านไปเขาก็ได้พบกับ อวี๋เติงเติงเธอเป็นทั้งหัวหน้าแกนนำหมู่บ้านค่ายชิงเฉียน แถมมีน่าตาที่คล้ายกันกับ อวิ๋นชี อีกด้วย และนี่คือจุดเริ่มต้นของพรหมลิขิตแห่งรักพันปี หนังใหม่ 2023
โดยเรื่องราวเล่าได้อย่างเข้าใจง่ายค่อยๆเล่าไปเรื่อยๆเรื่องมาพูดถึงในอดีตและเรื่องปัจจุบัน เปิดเรื่องมาพูดถึงตำนานเมื่อสามพันปี ก่อนเผ่าภูตภายใต้การนำของเทพธิดาอวิ๋นชีและจูหรงที่เป็นหัวหน้าทำสงครามกับเผ่ามนุษย์ในชั่วพริบตาสรรพสิ่งวอดวายระหว่างทำสงครามอวิ๋นชีได้รับอิทธิพลจากสัตว์โลกจึงผนึกจิตสังหารของตนเอาไว้ด้วยหวังจะแลกมาซึ่งสันตินึกไม่ถึงว่าด้วยเหตุนี้จึงทำให้จูลหลงโกรธแค้นนำพาเผ่าภูตปล้นฆ่าต่อไปทั่วในขณะเดียวกัน ลู่เหยียน องค์ชายเผ่ามนุษย์นำทัพมาต้านทานร่วมมือกับ อวิ๋นชี เพื่อที่จะจบสงครามนี้ แต่จูหรงกลับวางแผนบีบทั้งสองไปจนถึงทางตัน ก่อนอวิ๋นชีจะตายแต่ควักเอาต้นพลังในร่างให้แก่ลู่เหยียน ลู่เหยียน เขาใช้พลังของต้นพลังสังหารจูหรง จบสงครามระหว่างมนุษย์และเผ่าภูตได้ในที่สุด ทำปรารถนาก่อนตายของ อวิ๋นชี ได้สำเร็จเมืองจิ่วโจกลับคืนสู่ความสงบสุข
เมื่อสงครามจบลง ลู่เหยียน กลับหายไปจากโลกมนุษย์ เหลือเพียงตำนาน แต่แท้จริงแล้วเขาฝังตัวอยู่ในสุสานเป็นเวลาพันปีเพื่อรอการจุติของ อวิ๋นชี มาโดยตลอดเมื่อพระเอก ลู่เหยียน ออกมาจากสุสานก็ได้พบกับนางเอก อวี๋เติงเติง ผู้นำหมู่บ้านสาวห้าวเมื่อเกิดปัญหาขัดสนในหมู่บ้านขาดแคลนกำลังทรัพย์ในหมู่บ้านในการเลี้ยงชีพเธอเลยตั้งใจจะแต่งงานกับผู้ชายที่มีเงินทอง แต่งกับผู้ชายครั้งแรกก็ไม่เป็นอย่างที่หวังเพราะผู้ชายหนีไปจนนางเอกได้มาพบกับพระเอก ที่หน้าตาหล่อเหลาจนเธอสนใจและจับเขามาแต่งงานแรกๆพระเอกก็ไม่ยอม
เพราะครั้งแรกที่เจอเธอนั้นได้พิสูจน์ว่าเธอไม่ใช่ ธิดาอวิ๋นชี จึงไม่สนใจเธอ จากการสืบและได้เบาะแสบางอย่างที่ยังชี้เป้ามาที่นางเอกอยู่ทำให้พระเอกตอบตกลงแต่งงานกับนางเอก และได้รู้ว่าดวงจิตของธิดาภูตอยู่ในตัวนางเอกเขาจึงพยายามทุกวิถีทางเพื่อเอาดวงจิตสุดท้ายที่เหลืออยู่กลับมา ขนาดเขาดึงดวงจิตออกจากร่างเธอดวงจิตกับเริ่มสลายเขาจึงหยุดและคอยปกป้องเธอจากอันตรายแทน เรื่องราวความรักของพวกเขาจะเริ่มต้นยังไงต้องไปลุ้นสนุกมาก
No comments:
Post a Comment